แปลบทสัมภาษณ์ของธีราทรกับการเล่น J-League ใน Soccer Digest Part2


มาต่อ Part 2 กันค่ะ และถ้าใครรู้ว่าไปเจอได้ที่เกมส์เซนเตอร์แถวไหน ช่วยกระซิบแอดมินด้วยนาจา😂😂


⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️

“เขาคือเท้าซ้ายปีศาจตัวจริง” ใครคือนักกีฬาในJลีกที่ธีราทรLefty ชาวไทยที่แข็งแกร่งที่สุด ยอมรับ?

ธีราทรได้ย้ายจากทีมเมืองทองยูไนเต็ด มาร่วมทีมกับ Vissel Kobe ในJ ลีกเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา โดยลงเล่นให้กับVissel Kobe ไป22นัด จากการแข่งขันทั้งหมด 26นัด ได้ประฝีเท้ากับนักกีฬามากมาย กัปตันทีมชาติไทยฉายาเท้าซ้ายปีศาจได้เล่าให้เราฟังถึงนักกีฬาที่ชื่นชอบ และวงการฟุตบอลไทย

Q: คุ้นเคยกับชีวิตในญี่ปุ่นหรือยัง?

A: ตอนแรกๆก็งงกับการแยกขยะที่ค่อนข้างละเอียด แต่ตอนนี้ก็ปรับตัวได้แล้ว ผู้คนกับอากาศก็เหมาะกับตัวผม ครอบครัวก็ชอบที่นี่ มีเรื่องของมารยาทที่ควรจะต้องเรียนรู้เพิ่มเติมอีก

Q: สถานที่ที่ไปบ่อยๆคือที่ไหน?

A: เกมส์เซนเตอร์ครับ แต่ต้องระวังให้มากๆ เพราะผมใช้เงินไปมากเลยกับกาชาปอง แล้วก็เกมส์จับตุ๊กตา กาชาปองของญี่ปุ่นคุณภาพดีมากๆ เวลาเอาไปให้ภรรยากับลูกพวกเขาก็ดีใจกัน ผมเล่นเพลินไปหน่อยจนได้มาเต็มกระเป๋าเดินทางเลย มีครั้งหนึ่งผมเคยให้ตุ๊กตาที่จับได้กับเด็กผู้หญิง2คน ที่เล่นเครื่องข้างๆผม พวกเขาดีใจมาก ถ้าอยากเจอผมต้องมาที่นี่เลยเกมส์เซ็นเตอร์ 555

Q: งานแลกเปลี่ยนกับคนญี่ปุ่นสนุกไหม?

A: แน่นอนครับ ถึงแต่จะสื่อสารกันยากไปสักหน่อย แต่เวลาสื่อสารความรู้สึกของตัวเองได้ก็สนุกจริงๆ ถ้าผมพูดภาษาญี่ปุ่นได้ก็คงสนุกกว่านี้ ถ้าปีหน้ามีโอกาสได้เล่นที่ญี่ปุ่นต่อ ผมตั้งใจจะเรียนภาษาญี่ปุ่น จะจ้างครูมาสอนเลย

Q: การสื่อสารกับเพื่อนร่วมทีมคือประเด็นหลักเลยใช่ไหม?

A: ตามนั้นเลยครับ ตอนนี้พูดได้แค่ “ไดโจบุเดสก๊ะ? (ไม่เป็นไรใช่ไหม)” กับ “โอฮาโยะ (อรุณสวัส)” ที่เป็นคำทักทายแค่นั้น ต่อจากนี้ผมตั้งใจที่จะเป็นฝ่ายเข้าไปพูดคุยก่อน ทั้งในการใช้ชีวิตประจำวัน หรือในสนาม อยากทำอะไรได้ด้วยตัวคนเดียว

Q: ในส่วนของการเล่นฟุตบอลตอนนี้ ตั้งใจจะพัฒนาส่วนไหนเพิ่มเติม

A: ร่างกาย กับ สปรินท์ ตอนนี้หลังฝึกซ้อมก็มีโค้ชทานากะ มาคอยดูแลแผนการฝึกร่างกายเพิ่มเติม แต่ก็ยังไม่เพียงพอ ต้องฝึกร่างกายให้วิ่งให้ไม่มีหมดภายในเวลา90 นาทีให้ได้

Q: ธีราทรมีฉายาว่าเท้าซ้ายปีศาจ คุณมีวิธีฝึกการส่งลูกที่แข็งแรงและแม่นยำได้อย่างไร

A: ผมมีเบ๊คแฮมเป็นตัวอย่าง ผมฝึกฝนอย่างหนักด้วยตัวเองทุกวัน ถึงแม้ผมจะไม่มีพรสวรรค์อย่างเขา แต่ก็คิดว่าผลจากการฝึกหนักก็ทำให้ผมพัฒนาขึ้นมาได้บ้าง เพราะว่าโค้ชและเพื่อนร่วมทีมที่ไทยเชื่อมั่นในตัวผม เชื่อว่าถ้าผมเตะ(เปิดบอล)มันจะต้องมีอะไรเกิดขึ้น นอกเหนือจากนั้น ตอนที่ผมเล่นให้กับบุรีรัมย์ยูไนเต็ด มีการฝึกเตะบอลเข้าสามเหลี่ยมประตู ใครเตะเข้าได้ก็จะได้รางวัลพิเศษ ผมคิดว่ามีผลมากนะ เหมือนเล่นๆแต่เราก็ได้ฝึกไปในตัวด้วย

Q: อยากทำประตูจาก Free Kick ให้ได้ในญี่ปุ่นใช่ไหม?

A: ใช่ครับ แต่ในVissel Kobe ก็มีคนเตะFree Kick ที่ดีๆหลายคนอย่าง มิตะ โพดอลสกี้ ฟุจิตะ ก็ต้องยอมรับว่าพอมาที่นี่ก็ได้รับโอกาสในการเตะ Free Kick น้อยลง มันก็ทำให้เซนส์การยิงประตูลดลงด้วย ผมอยากพยายามทำให้เพื่อนๆในทีมเชื่อมั่นในตัวผมและให้ผมเป็นคนเตะ Free Kick ในเกมส์

Q: ผู้เล่นที่มีชื่อเสียงในการเตะ Free Kick ของญี่ปุ่นคือ นากามุระ ชุนสึเกะ คุณมีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง?

A : เขาเป็นนักเตะเบอร์ต้นๆของญี่ปุ่นเลย และยังมีผลวานในระดับโลก เขาเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยม มีคนเรียกผมว่าเท้าซ้ายปีศาจ แต่จริงๆแล้ว นากามุระ คือนักเตะที่เหมาะสมกับฉายาเท้าซ้ายปีซาจตัวจริง ไม่ใช่แค่ Free Kick นะ ลูกเตะมุมเขาก็เปิดได้แม่นยำมาก ผมดูวิดีโอเพื่อศึกษาการเล่นของเขาบ่อยๆ ในฤดูกาลนี้จูบิโล่อิวาตะ ก็ได้ประตูจากเขาหลายลูก หลังจากเจ็บจนลงเล่นไม่ได้ จูบิโล่อิวาตะก็ดูเหมือนจะอ่อนลง ทำให้เห็นเลบว่าเขามีความสำคัญกับทีมอย่างมาก

Q: มีนักกีฬาในJลีก คนอื่นอีกไหมที่คุณคิดว่าเจ๋ง

A: โคบายาชิ นากามุระ(เคนโกะ) และ เนต 3 คนนี้ครับ ส่วน Free Kick ก็ อามาโนะ ของมารินอส ผมว่าเขาคล้ายกับนากามุระ(ชุนสึเกะ)นะ ความมั่นใจล้นเหลือ เป็นอีกคนที่ผมชอบ

Q: อยากจะนำประสบการณ์อะไรจาก Jลีกกลับไปถ่ายทอดให้ทีมชาติไทย

A: ผมคิดว่ามันยากที่จะเอาทุกอย่างที่เรียนรู้ที่ญี่ปุ่นกลับไปใช้กับทีมชาติไทยตรงๆ แค่เพียงอยากจะบอกความรู้สึกที่ผมรู้สึกอยู่ตอนนี้ อย่างแผนการเล่น การยืนตำแหน่ง งิธีการสื่อสารกัน และวิธีการซ้อม ถึงแม้ตอนนี้ทีมชาติไทยยังไม่พร้อมเท่าญี่ปุ่น แต่ก็อยากจะค่อยๆเปลี่ยน และอยากให้พัฒนาขึ้นทีละนิดก็คงดี นอกจากผมแล้วยังมีทีมชาติไทยคนอื่นอย่าง ชนาธิปที่เล่นให้กับคอนซาโดเล่ซัปโปโร และ ธีรศิลป์ที่เล่นให้กับซานเฟรชเช่ฮิโรชิม่า อีกด้วย เรา3 คนอยากช่วยกันยกระดับทีมชาติไทยในการแข่งขันเอเชียนคัพในปีหน้า

Q: อยากแนะนำให้นักกีฬาไทยมาเล่นในJลีก ไหม

A: แน่นอนครับ ถ้าได้มาเล่นที่Jลีกคือได้พัฒนาตัวเองขึ้นอย่างแน่นอน ถ้าอยากเก่งขึ้นก็ต้องออกมาท้าทายข้างนอกดู ถ้าอยากให้ทีมชาติไทยและวงการฟุตบอลไทยพัฒนา นักกีฬาก็ควรจะออกมาหาประสบการณ์

Q: อะไรคือสิ่งสำคัญในการออกมาท้าทJลีก

A: อันดับ1 เลยก็คือความอดทน และก็ต้องรู้จักการรักษากฎเกณฑ์และมารยาทด้วย กฎของญี่ปุ่นเคร่งครัด ต้องยอมรับความต่างระหว่างวัฒนธรรมไทยกับญี่ปุ่นให้ได้ แล้วก็ต้องทิ้งชื่อเสียงที่ประเทศไทย ถ้ายอมรับตรงนี้ได้ก็ควรจะมาลอง

Q: สุดท้ายนี้ช่วยฝากอะไรถึงนักฟุตบอลในไทยหน่อย

A: ฝากถึงนักข่าวและแฟนบอลว่า เวลาดูนักกีฬาไทยและคิดว่าเก่งแล้ว “แบบนี้เล่นJลีกได้สบาย” อย่ามองว่ามันง่ายแบบนั้นเลย ผมเองกว่าจะก้าวมาถึงตรงนี้ หนทางก็ไม่ได้ราบเรียบ มีความยากลำบากแล้วก็ต้องแลกกับอะไรหลายๆอย่าง แต่ถ้ามีโอกาสได้มาเล่นที่J ลีกก็อยากให้มา เพราะมันได้อะไรกลับคืนไปมากกว่าสิ่งทีเสียไป และเติบโตขึ้นได้แน่นอน ผมเองก็จะพยายามทำให้ตัวเองได้เล่นในJลีกต่อไป สักวันหนึ่งจะได้มายืนอยู่ในสนามเดียวกัน

⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️

ใครยังไม่ได้อ่าน Part1 ก็ตามไปดูกันได้นะคะ

Post a Comment

0 Comments